มาฟังอีกมุมหนึ่ง จากคุณเอก ประวิต

กระทู้สนทนา
พื้นที่ตรงนี้ขออนุญาตใช้สิทธิ์ " ปกป้องตัวเอง" จากการโดนพาดพิงนะครับ
หลังจากที่ผมโดนพี่นักข่าวรุ่นใหญ่ในวงการวอลเลย์บอลท่านนึง "บล็อค" ด้วยเหตุผลตามที่เห็นในภาพ ซึ่งตอนแรกผมไม่ทราบเหตุผลหรอกว่าอะไร ก็กะว่าเจอหน้ากันก็จะลองถามดู แต่พอเจอแบบนี้แล้วความรู้สึกเป็นอีกแบบไปทันที
จากนั้นก็มานั่งคิดว่าไปทำอะไรให้พี่นักข่าวท่านนี้ไม่พอใจมากถึงขั้น"ลบเพื่อน" และ " บล็อค " ซึ่งผมเองคิดว่าน่าจะเป็นประโยคที่ผมไปตอบในเม้นของนักข่าวท่านนี้ที่กำลังตอบนุศรา กับประเด็นเรื่องการไปเล่นต่างประเทศ ว่า " นักข่าวที่เกาะติดทีมวอลเลย์บอลไม่น่ากลัวหรอกครับ " พร้อมกับชี้แจงไปเล็กน้อย ( ตามภาพ )
แต่ที่ตอบไปแบบนั้น เพราะในประโยคของนักข่าวท่านนี้ พาดพิงนักข่าวคนอื่นว่า "น่ากลัว " และ หากตีความแบบตรงๆ ในวงการวอลเลย์บอลมีกี่คนที่เกาะติดทีมแบบจริงจังบ้าง ? ทุกท่านต่างทราบดี
และ อะไรที่เป็นเหตุทำให้อยู่ๆ นักข่าวท่านนี้ต้องเอาผมมาเล่าในที่แจ้งว่า " ผมเป็นนักข่าวเต้า " ทั้งที่ก็ไม่เคยมีอะไรต่อกันมาก่อน แต่ผมจะบอกให้ว่าข่าวที่ผมแจกไป เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา ผมไม่ได้เต้าครับ แต่ว่าเวปไซต์ที่รับข่าวไป เอาไปเปลี่ยนหัว และ บิดประเด็น ถ้าจะเอาหลักฐานผมก็มีให้ครับ เพราะว่าในวันนั้นผมจำได้ว่า นักข่าวท่านนี้ได้โพสต์ในเฟสบุคส่วนตัวว่ามี "คนเต้าข่าว" และ ผมเองก็ดูข่าวที่ตัวเองลง มันก็ไม่มีนะ จนพี่ที่เป็นนักข่าวด้วยกันก็สงสัย แล้วก็เลยหาต้นตอกัน จนในที่สุดก็ไปเจอ แต่เขาเปลี่ยนพาดหัวใหม่ และ ปรับเนื้อเล็กน้อย ตามที่ผมแจ้งไว้ ส่วนต้นฉบับตามภาพที่ผมแนบไว้เลยครับ
อีกอย่างจากเรื่องในตอนนั้น ( มกราคม ) ผมก็ได้โทรหา อาจารย์ชาญฤทธิ์ ทันที แล้วก็ได้อธิบายให้แกฟังเรียบร้อย ถ้าแกคิดว่าเป็นผม ทำไมแกไม่ต่อว่าผมโดยตรงเลย แต่หลังจากนั้นผมกับอาจารย์ก็ยังติดต่อกันเหมือนปกติ
ส่วน พี่โจอี้ คมชัดลึก ที่นักข่าวท่านนี้ดึงเข้ามาร่วมวงด้วย อันนี้ผมไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัวนะครับ ผมกับพี่ไม่มีอะไรต่อกัน ถ้าพี่เข้าใจว่าผมเป็นนักข่าวเต้าก็อ่านตามด้านบน และ ดูเมล์ที่พี่ได้รับข่าวได้เลยฮะว่ามันมีการบิดเบือนอะไรหรือไม่
" ข่าวเต้า " จริงๆแล้วผมว่าการจะว่าใครสักคนควรมีน้ำหนักให้กับเรื่องนั้นๆ ไม่ควรเอาแค่เสี้ยวนึงที่คุณรู้สึกมาโฟกัส แต่ถ้าผมจะเต้าข่าวจริงๆ ทำไมผมต้องแหกขี้ตาไปเฝ้านักกีฬาซ้อมเช้า เดินทางไปดูเพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มในช่วงเย็น อีกทั้งยังต้องเดินทางไปต่างประเทศ หรือ ออกต่างจังหวัดไปตามโรงเรียนต่างๆในวงการวอลเลย์บอล ออกภาคสนามตลอดทั้งๆที่น่าจะนั่ง"เต้าข่าว"อยู่บนโต๊ะทำงานก็ได้
ที่ผมไม่ทำอย่างนั้น เพราะผมไม่ใช่คนที่จะ"รอรับ"ข่าวที่โต๊ะอย่างเดียว และ อีกอย่างผมไม่เก่ง ผมเลยใช้ความขยันตรงนี้เข้าทดแทน แต่ไม่เคยมีความคิดจะเอาตัวเองไปเทียบกับระดับสูงอย่างคุณ เพราะผมรู้ตัวเองดีกว่าเป็นแค่เด็กวัด ผมไม่ได้จบสูง สอบแต่ละทีก็เกือบจะตก ชีวิตการทำงานก็ทุลักทุเล เป็นเด็กเสิร์ฟหมูกระทะ ร้านเค้ก ร้านเหล้า และ ก็ทำอาชีพดีเจกลางคืน ไม่มีอะไรที่จะนำไปเทียบกับคุณได้สักอย่าง แต่ผมก็ภูมิใจในตัวผมเอง
" แม้ว่าผมจะจบน้อย ชีวิตไม่สวยหรู แต่ผมก็รู้ว่าการให้เกียรติซึ่งกันและกันเขาทำอย่างไร "
สุดท้ายนี้บอกตรงๆเลยว่า "โคตรงง" กับเรื่องดังกล่าว วันนี้เจอนักกีฬา เจอ คนในวงการ ทุกคนก็งงกันทั้งนั้น ส่วนผมเอง หากเจอนักข่าวท่านนี้ ก็คงจะไหว้เคารพปกติ แต่คุณจะรับมันหรือไม่ ก็สุดจะแล้วแต่ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ที่มา.....https://www.facebook.com/aekprawit/posts/906062252786602
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่